การเลือก กล่องกระดาษ อาจดูเป็นเรื่องง่าย แต่การเลือกสเปกที่ “ใช่” คือหัวใจสำคัญที่ส่งผลต่อทุกอย่าง ตั้งแต่ความปลอดภัยของสินค้าไปจนถึงต้นทุน และภาพลักษณ์ของแบรนด์คุณ ที่ Star Pack Industry เราเชื่อว่าลูกค้าควรได้รับข้อมูลที่ดีที่สุดเพื่อการตัดสินใจที่คุ้มค่าที่สุด หน้านี้คือคู่มือฉบับสมบูรณ์ที่จะถอดรหัสศัพท์เทคนิคในวงการให้เป็นเรื่องง่าย เพื่อให้คุณสามารถเลือก กล่องสั่งผลิต ได้อย่างมืออาชีพ โดยเราจะเจาะลึก 3 เสาหลักของคุณภาพกล่อง ได้แก่ จำนวนชั้น, ลอนลูกฟูก, และเกรดกระดาษ
ลองนึกภาพจำนวนชั้นเหมือนความหนาของชุดเกราะ ยิ่งมีชั้นมาก เกราะป้องกันก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้น นี่คือปัจจัยแรกที่ต้องพิจารณาเมื่อคำนึงถึงน้ำหนักของสินค้า และการเรียงซ้อน
โครงสร้าง: ประกอบด้วยกระดาษแผ่นเรียบด้านนอก 1 แผ่น, ลอนลูกฟูก 1 ชั้นตรงกลาง, และกระดาษแผ่นเรียบด้านใน 1 แผ่น รวมเป็น 3 ชั้น เป็นประเภทที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายที่สุด ให้ความแข็งแรงที่สมดุลในราคาที่คุ้มค่า
เหมาะสำหรับ:
โครงสร้าง: เปรียบเสมือนเกราะสองชั้น ประกอบด้วยกระดาษแผ่นเรียบ 3 แผ่น และลอนลูกฟูก 2 ชั้นสลับกัน (โดยทั่วไปคือลอน BC) ให้ความแข็งแกร่งทนทานต่อการเรียงซ้อน, การกระแทก, และการเจาะทะลุสูงเป็นพิเศษ
เหมาะสำหรับ:
“ลอน” คือส่วนโค้งของกระดาษที่อยู่ระหว่างแผ่นเรียบ ทำหน้าที่เหมือนสปริง หรือเสานับพันที่ช่วยดูดซับแรงกระแทก และรับน้ำหนัก การเลือกลอนที่ถูกต้องส่งผลโดยตรงต่อความแข็งแรงและคุณภาพของ กล่องพิมพ์ลาย ในประเทศไทย ลอนที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายมีอยู่ไม่กี่ประเภท การเลือกลอนที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณได้ กล่องคุณภาพดี ที่ตรงตามความต้องการที่สุด
ลอน | ความสูงลอน (มม.) | คุณสมบัติเด่น | เหมาะสำหรับ |
---|---|---|---|
ลอน C | 3.3 – 3.8 | สมดุลที่สุดระหว่างการรับน้ำหนักและการพิมพ์ เป็นลอนที่นิยมใช้มากที่สุดในไทย มีความแข็งแรงในการรับแรงกดทับ (Stacking Strength) สูง | กล่องขนส่ง ทั่วไป, กล่องสินค้า แทบทุกประเภทที่ต้องการความแข็งแรงในการเรียงซ้อน |
ลอน B | 2.1 – 2.6 | กันกระแทกได้ดีเยี่ยม มีความถี่ของลอนสูง ทำให้ทนต่อการเจาะทะลุได้ดี ผิวค่อนข้างเรียบ ทำให้ กล่องพิมพ์ลาย หรือ กล่องพิมพ์โลโก้ มีความคมชัดสวยงาม | กล่องไดคัท, กล่องที่เน้นความสวยงามของงานพิมพ์, กล่องบรรจุอาหารกระป๋อง, กล่องที่ต้องพับขึ้นรูปบ่อยๆ |
ลอน E | 0.9 – 1.4 | บาง และเรียบที่สุด ให้พื้นผิวที่ยอดเยี่ยมสำหรับงานพิมพ์คุณภาพสูง มีความละเอียดสูง เหมาะกับการประกบงานพิมพ์ออฟเซ็ตเพื่อสร้างบรรจุภัณฑ์ที่สวยงาม | กล่องบรรจุภัณฑ์ ขนาดเล็ก, กล่องเครื่องสำอาง, กล่องตีแบรนด์ ที่ต้องการความหรูหราและเน้นการแสดงสินค้าบนชั้นวาง |
ลอน BC | ~ 6.0 | คือการนำคุณสมบัติเด่นของลอน B (กันกระแทก) และ C (รับน้ำหนัก) มารวมกันใน กล่องลูกฟูก 5 ชั้น เพื่อให้ได้ กล่องแข็งแรง สูงสุดในทุกมิติ | กล่องสำหรับสินค้าส่งออก, สินค้าน้ำหนักมาก, หรือสินค้าที่ต้องการการปกป้องสูงสุดจากการขนส่งที่สมบุกสมบัน |
นี่คือส่วนที่กำหนดคุณภาพพื้นฐานของวัตถุดิบ ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อความทนทานของกล่อง ประกอบด้วย 2 ส่วนสำคัญ
รหัสเช่น KA, KI, KS, CA คือตัวบ่งชี้คุณภาพของเยื่อกระดาษ, ความสามารถในการทนความชื้น, และสีสัน
KA (พรีเมียม): เป็นเกรดกระดาษที่ถูกกำหนดมาตรฐานให้มีคุณสมบัติด้านความแข็งแรง, ความทนทานต่อการฉีกขาด, และการทนความชื้นได้ดีที่สุด ด้วยคุณสมบัติที่เหนือกว่าประกอบกับสีน้ำตาลทองที่สวยงาม ทำให้กระดาษ KA เป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งสำหรับสินค้าส่งออก, สินค้าแช่แข็ง/ห้องเย็น, หรือสินค้าที่ต้องการภาพลักษณ์พรีเมียมและความทนทานสูงสุด
CA (ประหยัด): เป็นเกรดกระดาษที่เน้นความคุ้มค่าและประหยัดต้นทุนมากที่สุด มีสีเทาคล้ำตามคุณสมบัติของเยื่อรีไซเคิล มีความแข็งแรงในระดับพื้นฐาน เหมาะสำหรับทำส่วนประกอบภายในกล่อง เช่น ไส้ในกล่อง, แผ่นกั้น, หรือใช้กับสินค้าที่ไม่ต้องการการรับน้ำหนักมากและให้ความสำคัญกับต้นทุนเป็นหลัก
นอกจากนี้ยังมีกระดาษเกรดอื่น ๆ เช่น KT, KL, KH เป็นต้น ซึ่งมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันสามารถเลือกใช้ได้ตามเหมาะสม
แกรม หรือ gsm (grams per square meter) คือค่าน้ำหนักมาตรฐานของกระดาษต่อหนึ่งตารางเมตร ซึ่งเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งในการกำหนดความแข็งแรง และความทนทานของกล่อง กฎง่ายๆ ที่ควรจำคือ ยิ่งแกรมสูง กระดาษยิ่งมีความหนาแน่นของเยื่อกระดาษสูงขึ้น ส่งผลให้กระดาษหนา และแข็งแรงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
การเลือกแกรมไม่ใช่แค่การเลือกความหนา แต่คือการเลือกระดับการป้องกันที่เหมาะสมกับสินค้าของคุณ
125 แกรม: เป็นแกรมมาตรฐานที่นิยมใช้สำหรับสินค้าที่มีน้ำหนักเบา และไม่ต้องการการป้องกันที่ซับซ้อน เหมาะสำหรับทำกระดาษลอนลูกฟูก หรือผิวกล่องด้านใน เพื่อควบคุมต้นทุน เช่น กล่องเสื้อผ้า, สินค้าอุปโภคบริโภคขนาดเล็ก
150 แกรม: เป็นแกรมที่สมดุลและได้รับความนิยมสูง ให้ความรู้สึกแข็งแรงทนทานที่สัมผัสได้ เหมาะสำหรับสินค้าหลากหลายประเภท ตั้งแต่กล่องอีคอมเมิร์ซ, กล่องเครื่องสำอาง, ไปจนถึงสินค้าที่ต้องการสร้างภาพลักษณ์ที่ดี
การเลือกแกรมที่เหมาะสมคือการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ การเลือกแกรมที่สูงเกินความจำเป็นอาจทำให้ต้นทุนบรรจุภัณฑ์สูงขึ้นโดยไม่จำเป็น ในขณะที่การเลือกแกรมที่ต่ำเกินไปอาจนำไปสู่ความเสียหายของสินค้าระหว่างการขนส่งได้ ทีมผู้เชี่ยวชาญของเราพร้อมให้คำปรึกษาเพื่อช่วยคุณหาจุดที่สมดุลที่สุดระหว่างระดับการป้องกันที่ต้องการ และงบประมาณที่คุณมี เพื่อให้คุณได้กล่องที่คุ้มค่า และมีประสิทธิภาพสูงสุด
การเลือกสเปกที่เหมาะสมคือการสร้างสมดุลระหว่าง การปกป้อง, ความสวยงาม, และต้นทุน
ด้วยประสบการณ์กว่า 20 ปี ทีมผู้เชี่ยวชาญของ Star Pack พร้อมให้คำปรึกษาเพื่อหาโซลูชันที่ดีที่สุดสำหรับคุณ ติดต่อเราเพื่อเริ่มต้นการสร้างสรรค์
กล่องลูกฟูก ที่สมบูรณ์แบบสำหรับธุรกิจของคุณ