Sheet Board

ถอดรหัสสเปกกล่อง

คู่มือเลือกกระดาษลูกฟูก (Sheet Board) อย่างมืออาชีพ

มากกว่าแค่กล่อง คือเกราะป้องกัน และความประทับใจแรก

การเลือก กล่องกระดาษ อาจดูเป็นเรื่องง่าย แต่การเลือกสเปกที่ “ใช่” คือหัวใจสำคัญที่ส่งผลต่อทุกอย่าง ตั้งแต่ความปลอดภัยของสินค้าไปจนถึงต้นทุน และภาพลักษณ์ของแบรนด์คุณ ที่ Star Pack Industry เราเชื่อว่าลูกค้าควรได้รับข้อมูลที่ดีที่สุดเพื่อการตัดสินใจที่คุ้มค่าที่สุด หน้านี้คือคู่มือฉบับสมบูรณ์ที่จะถอดรหัสศัพท์เทคนิคในวงการให้เป็นเรื่องง่าย เพื่อให้คุณสามารถเลือก กล่องสั่งผลิต ได้อย่างมืออาชีพ โดยเราจะเจาะลึก 3 เสาหลักของคุณภาพกล่อง ได้แก่ จำนวนชั้น, ลอนลูกฟูก, และเกรดกระดาษ

จำนวนชั้น (Layers)

เกราะป้องกันด่านแรก

ลองนึกภาพจำนวนชั้นเหมือนความหนาของชุดเกราะ ยิ่งมีชั้นมาก เกราะป้องกันก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้น นี่คือปัจจัยแรกที่ต้องพิจารณาเมื่อคำนึงถึงน้ำหนักของสินค้า และการเรียงซ้อน

กระดาษลูกฟูก 3 ชั้น

กระดาษลูกฟูก 3 ชั้น (Single Wall)

 โครงสร้าง: ประกอบด้วยกระดาษแผ่นเรียบด้านนอก 1 แผ่น, ลอนลูกฟูก 1 ชั้นตรงกลาง, และกระดาษแผ่นเรียบด้านใน 1 แผ่น รวมเป็น 3 ชั้น เป็นประเภทที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายที่สุด ให้ความแข็งแรงที่สมดุลในราคาที่คุ้มค่า

เหมาะสำหรับ:

  • สินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไปเสื้อผ้า, เครื่องสำอาง, ของใช้ในบ้าน
  • สินค้าอีคอมเมิร์ซที่มีน้ำหนักไม่มาก (ไม่เกิน 10-15 กก.)
  • การขนส่งภายในประเทศที่ควบคุมสภาพแวดล้อมได้
  • สินค้าอุตสาหกรรมที่มีน้ำหนักไม่มาก และชิ้นงานที่มีลักษณะคงตัวสามารถรับน้ำหนักโดยตัวชิ้นงานเองอีกได้อยู่แล้ว

กระดาษลูกฟูก 5 ชั้น (Double Wall)

โครงสร้าง: เปรียบเสมือนเกราะสองชั้น ประกอบด้วยกระดาษแผ่นเรียบ 3 แผ่น และลอนลูกฟูก 2 ชั้นสลับกัน (โดยทั่วไปคือลอน BC) ให้ความแข็งแกร่งทนทานต่อการเรียงซ้อน, การกระแทก, และการเจาะทะลุสูงเป็นพิเศษ

เหมาะสำหรับ:

  • สินค้าน้ำหนักมาก (เกิน 15 กก. ขึ้นไป)
  • สินค้าที่แตกหักง่าย เช่น เครื่องแก้ว, เซรามิก, หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
  • อะไหล่รถยนต์, ชิ้นส่วนเครื่องจักร
  • สินค้าส่งออกที่ต้องเผชิญกับสภาวะการขนส่งที่หลากหลายและยาวนาน
  • การจัดเก็บในคลังสินค้าเป็นเวลานานที่ต้องมีการวางซ้อนกันสูงๆ
คู่มือเลือกกระดาษลูกฟูก

ลอนลูกฟูก (Flute)

โครงสร้างลับที่ซ่อนอยู่

“ลอน” คือส่วนโค้งของกระดาษที่อยู่ระหว่างแผ่นเรียบ ทำหน้าที่เหมือนสปริง หรือเสานับพันที่ช่วยดูดซับแรงกระแทก และรับน้ำหนัก การเลือกลอนที่ถูกต้องส่งผลโดยตรงต่อความแข็งแรงและคุณภาพของ กล่องพิมพ์ลาย ในประเทศไทย ลอนที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายมีอยู่ไม่กี่ประเภท การเลือกลอนที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณได้ กล่องคุณภาพดี ที่ตรงตามความต้องการที่สุด

ลอน
ความสูงลอน (มม.)
คุณสมบัติเด่น
เหมาะสำหรับ
ลอน C
3.3 – 3.8
สมดุลที่สุดระหว่างการรับน้ำหนักและการพิมพ์ เป็นลอนที่นิยมใช้มากที่สุดในไทย มีความแข็งแรงในการรับแรงกดทับ (Stacking Strength) สูง
กล่องขนส่ง ทั่วไป, กล่องสินค้า แทบทุกประเภทที่ต้องการความแข็งแรงในการเรียงซ้อน
ลอน B
2.1 – 2.6
กันกระแทกได้ดีเยี่ยม มีความถี่ของลอนสูง ทำให้ทนต่อการเจาะทะลุได้ดี ผิวค่อนข้างเรียบ ทำให้ กล่องพิมพ์ลาย หรือ กล่องพิมพ์โลโก้ มีความคมชัดสวยงาม
กล่องไดคัท, กล่องที่เน้นความสวยงามของงานพิมพ์, กล่องบรรจุอาหารกระป๋อง, กล่องที่ต้องพับขึ้นรูปบ่อยๆ
ลอน E
0.9 – 1.4
บาง และเรียบที่สุด ให้พื้นผิวที่ยอดเยี่ยมสำหรับงานพิมพ์คุณภาพสูง มีความละเอียดสูง เหมาะกับการประกบงานพิมพ์ออฟเซ็ตเพื่อสร้างบรรจุภัณฑ์ที่สวยงาม
กล่องบรรจุภัณฑ์ ขนาดเล็ก, กล่องเครื่องสำอาง, กล่องตีแบรนด์ ที่ต้องการความหรูหราและเน้นการแสดงสินค้าบนชั้นวาง
ลอน BC
~ 6.0
คือการนำคุณสมบัติเด่นของลอน B (กันกระแทก) และ C (รับน้ำหนัก) มารวมกันใน กล่องลูกฟูก 5 ชั้น เพื่อให้ได้ กล่องแข็งแรง สูงสุดในทุกมิติ
กล่องสำหรับสินค้าส่งออก, สินค้าน้ำหนักมาก, หรือสินค้าที่ต้องการการปกป้องสูงสุดจากการขนส่งที่สมบุกสมบัน

เกรดกระดาษ (Paper Grade)

DNA ของความแข็งแกร่ง

นี่คือส่วนที่กำหนดคุณภาพพื้นฐานของวัตถุดิบ ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อความทนทานของกล่อง ประกอบด้วย 2 ส่วนสำคัญ

KraftGrade2 resize คู่มือเลือกกระดาษลูกฟูก,Sheet Board,กระดาษลูกฟูก 3 ชั้น,กระดาษลูกฟูก 5 ชั้น,ลอน c,ลอน B,ลอน E,ลอน BC,KA,KI,KS,CA,125 แกรม,150 แกรม,180 แกรม

ชนิดกระดาษ (Paper Type)

รหัสเช่น KA, KI, KS, CA คือตัวบ่งชี้คุณภาพของเยื่อกระดาษ, ความสามารถในการทนความชื้น, และสีสัน

KA (พรีเมียม): เป็นเกรดกระดาษที่ถูกกำหนดมาตรฐานให้มีคุณสมบัติด้านความแข็งแรง, ความทนทานต่อการฉีกขาด, และการทนความชื้นได้ดีที่สุด ด้วยคุณสมบัติที่เหนือกว่าประกอบกับสีน้ำตาลทองที่สวยงาม ทำให้กระดาษ KA เป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งสำหรับสินค้าส่งออก, สินค้าแช่แข็ง/ห้องเย็น, หรือสินค้าที่ต้องการภาพลักษณ์พรีเมียมและความทนทานสูงสุด

KI (มาตรฐาน-คุณภาพสูง): เป็นเกรดกระดาษมาตรฐานคุณภาพสูง มีความแข็งแรงทนทานเป็นอย่างดี เหมาะสำหรับใช้ทำผิวกล่องด้านในเพื่อเสริมโครงสร้าง หรือใช้เป็นผิวกล่องด้านนอกสำหรับสินค้าที่เน้นความแข็งแรงเป็นพิเศษ แต่ไม่ต้องการสีน้ำตาลทองสวยงามเท่าเกรด KA
KS (มาตรฐาน-เพื่อความสวยงาม): เป็นเกรดกระดาษที่ออกแบบมาเพื่องานพิมพ์โดยเฉพาะ โดยมีผิวหน้าเป็นสีขาวสะอาด ทำให้สามารถพิมพ์สีสันต่างๆ ได้สดใสและคมชัด เหมาะสำหรับ กล่องพิมพ์ลาย หรือกล่องสินค้าที่ต้องการสร้างความโดดเด่นบนชั้นวางและสื่อสารภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้สวยงามที่สุด

CA (ประหยัด): เป็นเกรดกระดาษที่เน้นความคุ้มค่าและประหยัดต้นทุนมากที่สุด มีสีเทาคล้ำตามคุณสมบัติของเยื่อรีไซเคิล มีความแข็งแรงในระดับพื้นฐาน เหมาะสำหรับทำส่วนประกอบภายในกล่อง เช่น ไส้ในกล่อง, แผ่นกั้น, หรือใช้กับสินค้าที่ไม่ต้องการการรับน้ำหนักมากและให้ความสำคัญกับต้นทุนเป็นหลัก

นอกจากนี้ยังมีกระดาษเกรดอื่น ๆ  เช่น KT, KL, KH เป็นต้น ซึ่งมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันสามารถเลือกใช้ได้ตามเหมาะสม

แกรม (Grammage - gsm) ตัวชี้วัดความหนาแน่น ทนทาน

แกรม หรือ gsm (grams per square meter) คือค่าน้ำหนักมาตรฐานของกระดาษต่อหนึ่งตารางเมตร ซึ่งเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งในการกำหนดความแข็งแรง และความทนทานของกล่อง กฎง่ายๆ ที่ควรจำคือ ยิ่งแกรมสูง กระดาษยิ่งมีความหนาแน่นของเยื่อกระดาษสูงขึ้น ส่งผลให้กระดาษหนา และแข็งแรงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

การเลือกแกรมไม่ใช่แค่การเลือกความหนา แต่คือการเลือกระดับการป้องกันที่เหมาะสมกับสินค้าของคุณ

125 แกรม: เป็นแกรมมาตรฐานที่นิยมใช้สำหรับสินค้าที่มีน้ำหนักเบา และไม่ต้องการการป้องกันที่ซับซ้อน เหมาะสำหรับทำกระดาษลอนลูกฟูก หรือผิวกล่องด้านใน เพื่อควบคุมต้นทุน เช่น กล่องเสื้อผ้า, สินค้าอุปโภคบริโภคขนาดเล็ก

150 แกรม: เป็นแกรมที่สมดุลและได้รับความนิยมสูง ให้ความรู้สึกแข็งแรงทนทานที่สัมผัสได้ เหมาะสำหรับสินค้าหลากหลายประเภท ตั้งแต่กล่องอีคอมเมิร์ซ, กล่องเครื่องสำอาง, ไปจนถึงสินค้าที่ต้องการสร้างภาพลักษณ์ที่ดี

185 แกรม ขึ้นไป: สำหรับงานที่ต้องการความทนทานสูงสุด เป็นตัวเลือกสำหรับ กล่องแข็งแรง ที่ใช้บรรจุสินค้าน้ำหนักมาก, สินค้าที่เปราะบางและมีมูลค่าสูง, หรือสินค้าส่งออกที่ต้องเผชิญกับสภาวะการขนส่งที่หลากหลายและอาจไม่เอื้ออำนวย

การเลือกแกรมที่เหมาะสมคือการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ การเลือกแกรมที่สูงเกินความจำเป็นอาจทำให้ต้นทุนบรรจุภัณฑ์สูงขึ้นโดยไม่จำเป็น ในขณะที่การเลือกแกรมที่ต่ำเกินไปอาจนำไปสู่ความเสียหายของสินค้าระหว่างการขนส่งได้ ทีมผู้เชี่ยวชาญของเราพร้อมให้คำปรึกษาเพื่อช่วยคุณหาจุดที่สมดุลที่สุดระหว่างระดับการป้องกันที่ต้องการ และงบประมาณที่คุณมี เพื่อให้คุณได้กล่องที่คุ้มค่า และมีประสิทธิภาพสูงสุด

bundle plain paper คู่มือเลือกกระดาษลูกฟูก,Sheet Board,กระดาษลูกฟูก 3 ชั้น,กระดาษลูกฟูก 5 ชั้น,ลอน c,ลอน B,ลอน E,ลอน BC,KA,KI,KS,CA,125 แกรม,150 แกรม,180 แกรม

บทสรุปจากผู้เชี่ยวชาญ

ประกอบร่างสร้างกล่องที่สมบูรณ์แบบ

การเลือกสเปกที่เหมาะสมคือการสร้างสมดุลระหว่าง การปกป้อง, ความสวยงาม, และต้นทุน

เลือกจำนวนชั้น
เริ่มต้น จากการพิจารณาน้ำหนัก และเส้นทางการขนส่งของสินค้า
เลือกลอน
จากนั้น พิจารณาความต้องการด้านงานพิมพ์ และรูปทรงของกล่อง
เลือกเกรดกระดาษ และแกรม
และสุดท้าย ปรับความแข็งแรง และงบประมาณให้ลงตัว

ยังไม่แน่ใจ? นั่นคือหน้าที่ของเรา

ด้วยประสบการณ์กว่า 20 ปี ทีมผู้เชี่ยวชาญของ Star Pack พร้อมให้คำปรึกษาเพื่อหาโซลูชันที่ดีที่สุดสำหรับคุณ ติดต่อเราเพื่อเริ่มต้นการสร้างสรรค์
กล่องลูกฟูก ที่สมบูรณ์แบบสำหรับธุรกิจของคุณ